รื่นรส ภัตตาคาร

Published on September 17, 2018

The Legendary Chinese Restaurant

ลิ้มรสความอร่อยระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยเชื้อสายจีนมานานกว่า 40 ปีกับ รื่นรส ภัตตาคาร ร้านอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วที่ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบันให้คนรักอาหารจีนได้ตามมาทานกันที่โลเคชั่นใหม่ภายในโครงการบางกอกสแควร์ ถนนพระราม 3 ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ความคลาสสิกและความอร่อยไว้ได้อย่างครบถ้วนทุกเมนู 

 

บรรยากาศด้านหน้าร้าน

ร้านอาหารแห่งนี้ เดิมทีตั้งอยู่บนถนนตากสิน เคยเปิดเป็นร้านขายยาจีนมาก่อน แต่ด้วยความที่คุณปู่ของเจ้าของร้านท่านชอบทานอาหารอย่างมาก ทุก ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ท่านมักจะพาครอบครัวไปทานอาหารอร่อย ๆ นอกบ้านกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะตามภัตตาคารชื่อดังต่าง ๆ จึงได้เริ่มลองทำอาหารทานเองดูบ้าง โดยนำสูตรต้นตำรับจีนแต้จิ๋วมาผสมผสานกับยาจีนที่ท่านมีความรู้ด้านนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาครีเอทเป็นเมนูต่าง ๆ แล้วชวนคนอื่น ๆ มาลองทาน จนกระทั่งจับพลัดจับผลูได้รับคำแนะนำจากเพื่อนฝูง รวมถึงผู้ที่เคยได้ลองทานอาหารฝีมือคุณปู่แล้วติดใจในความอร่อยให้ลองเปิดเป็นร้านอาหารแบบจริงจัง เริ่มต้นเปิดร้านเมื่อปี พ.ศ.2519 โดยใช้ชื่อร้านเป็นภาษาจีนว่า ‘อี่ล้ง ชังซิก’ แปลว่า ‘ภัตตาคาร อี่ล้ง’ และเพื่อให้คนไทยอ่านออกเสียงและจำชื่อได้ง่ายขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘รื่นรส ภัตตาคาร’ 
 

บรรยากาศภายในร้าน

Family Dining

รื่นรส ภัตตาคาร เป็นร้านอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยากมาก เพราะอาหารจีนแนวนี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งแล้ว โดยรื่นรสภัตตาคารเป็นหนึ่งในนั้น เป็นสูตรเฉพาะที่ทำกันเองในครอบครัว ดูแลคุณภาพของอาหารทุกจานเหมือนทำทานเอง จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รสชาติคงที่ ทานเมื่อ 10-20 ปีที่แล้วอย่างไร วันนี้รสชาติก็ยังคงเดิม โดยทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อให้ทุกคนได้ทานอาหารจีนระดับภัตตาคารในราคาที่เอื้อมถึง จากวันแรกที่เปิดขายเพียง 2 เมนูหลัก ๆ คือ แพะตุ๋นยาจีน กับหูฉลามน้ำแดง มาวันนี้ทางร้านได้เพิ่มเมนูใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบันมีเมนูอาหารจีนให้ได้เลือกทานมากกว่า 100 เมนู ก่อนนจะส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น และจะคงคู่ความอร่อยให้คนรักอาหารจีนได้ทานต่อไป

 

โซนนั่งทานอาหารภายในร้าน

ด้านบรรยากาศ ภายในร้านคงความคลาสสิกในแบบโต๊ะจีนซึ่งมีโซนให้นั่งทานทั้งแบบห้องรวมและแบบส่วนตัว ห้องวีไอพีซึ่งรองรับได้ถึง 4 ห้อง รวมจุคนได้จำนวนทั้งสิ้น 124 ที่นั่ง ท่ามกลางความอบอุ่นของมู้ดแอนด์โทนสีน้ำตาล ผ่านการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ในสไตล์จีน นับเป็นหนึ่งในลิสต์ร้านภัตตาคารจีนลำดับต้น ๆ ที่เหมาะสำหรับพาคนในครอบครัวมาทานอย่างยิ่ง

 

ภายในห้องวีไอพี

Classic Teochew Cuisine

มาถึงในส่วนของอาหารกันบ้าง ด้วยความที่คุณปู่ของผู้เป็นเจ้าของนั้นเป็นคนจีนชาวซัวเถา (ภาคตะวันออกของจีน) เพราะฉะนั้นเมนูต่าง ๆ จึงแตกต่างจากร้านอาหารจีนทั่วไป เสิร์ฟเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว เน้นไปที่อาหารทะเล โดยเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าส่งตรงมาจากฮ่องกง เปิดประเดิมความอร่อย เรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนูทานเล่นยอดนิยมกับ ปอเปี๊ยะทอด รื่นรส (120 บาท) โดดเด่นด้วยแป้งปอเปี๊ยะบางเป็นพิเศษ ห่อด้วยกุ้ง มันแกว และเห็ดหอม โดยที่ไส้ทั้งหมดผ่านการหมักจนเข้าเนื้อ แล้วนำไปทอดโดยคุมไฟอย่างพิถีพิถันจนได้ปอเปี๊ยะที่กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยที่ทางร้านทำเอง ใช้บ๊วยเคี่ยวกับน้ำตาลและพริกจนได้รสเปรี้ยวอมหวาน ชูรสชาติให้ปอเปี๊ยะจานนี้พิเศษมากขึ้น

 

ปอเปี๊ยะทอด รื่นรส (120 บาท)

ตามมาด้วย ผัดโหงวก้วย (180 บาท) อาหารทานเล่นยอดนิยมอีกหนึ่งจานที่ห้ามพลาด โดยตามภาษาจีนแต้จิ๋วแล้ว ‘โหงวก้วย’ นั้นแปลว่า ธัญพืช-ผลไม้มงคล 5 ชนิด เพราะฉะนั้นผัดโหงวก้วยจานนี้จึงประกอบไปด้วย แปะก๊วย แห้ว เกาลัด พุทราจีน และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดผ่านการเชื่อมเป็นอย่างดีจนมีรสหวานเข้าเนื้อ แล้วนำมาผัดโดยใส่แฮม เนื้อสะโพกไก่ เนื้อกุ้ง เพิ่มลงไป ได้รสหวาน ๆ เค็ม ๆ กลมกล่อมลงตัว ทานง่าย ช่วยเรียกน้ำย่อยจานต่อไปได้ดีทีเดียว   

 

ผัดโหงวก้วย (180 บาท)

ส่วนใครที่ชอบทานปลา แนะนำให้ลองสั่ง ปลาหิมะทอดราดซอส XO (ขีดละ 300 บาท) ปลาหิมะเนื้อนุ่มที่นำมาคลุกแป้งบาง ๆ แล้วทอดจนได้เนื้อปลาเหลืองกรอบ สุกกำลังดีไม่แข็งหรือแห้งจนเกินไป ก่อนจะนำมาราดด้วยซอส XO สูตรพิเศษ รสเข้มข้นเข้ากันดีกับเนื้อนุ่ม ๆ ของปลาหิมะ

 

ปลาหิมะทอดราดซอส XO (ขีดละ 300 บาท)

แล้วเพิ่มความอิ่มอร่อยด้วยเมนูข้าวอย่าง ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง (180 บาท) ข้าวผัดสไตล์จีนที่หาทานได้ที่นี่เพียงที่เดียว โดยความพิเศษจะอยู่ที่ปลาแห้งที่ทางร้านนำมาใช้ เป็นปลาตาเดียวตากแห้งนำเข้าจากประเทศฮ่องกงที่เรียกว่า ‘ปลาทีโป้ว’ ซึ่งมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว นำมาผัดกับคะน้าซอยบาง ๆ กุ้งที่หั่นมาพอดีคำ และข้าวหอมมะลิอย่างดีจากจังหวัดยโสธร จนได้ข้าวผัดคะน้าปลาแห้งที่ทั้งหอมและได้รสชาติแสนอร่อย

 

ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง (180 บาท)

แต่ที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็นเมนูซุป พระกระโดดกำแพง (1,500 บาท) สุดยอดซุปน้ำใสที่ทำจากสะโพกหมู
ที่ทางร้านนำไปนึ่งในซึ้งนานถึง 12 ชั่วโมงจนได้รสกลมกล่อม ปรุงรสแบบสูตรจีนซึ่งรวมที่สุดของวัตถุดิบชั้นดี ได้แก่ หูฉลาม ปลิงทะเล เยื่อไผ่ หอยเป๋าฮื้อ กระเพาะปลาสด รากไม้ และยาจีนที่ให้สรรพคุณบำรุงร่างกาย เป็นอีกหนึ่งเมนูบำรุงสุขภาพที่มาแล้วต้องลอง

 

พระกระโดดกำแพง (1,500 บาท)

ทานของคาวกันไปแล้ว อย่าลืมปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานกับ เผือกกวนแปะก๊วย (200 บาท) ขนมหวานมงคลของจีน ที่นิยมเรียกกันว่า ‘โอวนีแปะก๊วย’ ทำจากเผือกกวนที่ทางร้านกวนเอง ทำให้รสชาติไม่หวานมาก เสิร์ฟมาพร้อมแปะก๊วยเชื่อม แห้ว และข้าวเหนียวมูน ตักทานพร้อมกันได้รสหวานมัน ใครได้ทานเป็นต้องติดใจ

 

เผือกกวนแปะก๊วย (200 บาท)

Info
Hours
Everyday : 11AM - 2:30PM
5PM - 10PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
762/2 โครงการบางกอกสแควร์ ห้อง A 288 ถนนพระราม 3 เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit