ทับปิง By อันจะกิน

Published on September 10, 2025

From Anja Gin Villa to Tubping

หากคุณเป็นแฟนรสมือของ พี่ก้อย กนิษฐา ลิมังกูร จาก ‘อันจะกินวิลล่า’ ร้าน Chef’s Table ยอดฮิตที่เสิร์ฟเพียงวันละหนึ่งโต๊ะ แม้ปัจจุบันคิวถูกจองยาวไปถึงปี 2570 แล้ว แต่ถ้าใครที่หิ้วท้องรอไม่ไหว BKK. ขอชวนมาลัดคิวชิมเมนูสไตล์ Home Cooked สูตรพี่ก้อยกันก่อนที่ ‘ทับปิง by อันจะกิน’ ร้านอาหารน้องใหม่ที่เกิดจากการร่วมมือของ 3 แบรนด์ดังเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พี่ก้อยจาก อันจะกินวิลล่า, พี่วรรณ จารุวรรณ เมืองมูล จาก ข้าวแกงบ้าน บ้าน และพี่เป้จาก Gusto site ที่ซึ่งถักทอเสน่ห์ของทั้งสามร้าน และความชอบของเจ้าของทั้งสาม ผ่านบรรยากาศและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกลายเป็น ‘ทับปิง by อันจะกิน’ พื้นที่พักใจของทุกคน ที่เต็มไปด้วยหลากหลายเมนู Home Cooked อบอุ่นและเป็นกันเอง

 

ทับปิง by อันจะกิน

 

คุณก้อย กนิษฐา ลิมังกูร

 

บรรยากาศภายในร้าน

คำว่า ‘ทับปิง’ ทับ หมายถึงบ้าน ปิง หมายถึงแม่น้ำปิง ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านชั่วคราวที่อยู่ริมแม่น้ำปิง พร้อมเปิดบ้านต้อนรับทุกคนให้มาอิ่มอร่อยกันด้วยหลากหลายเมนูอาหารที่ทำด้วยใจ

Where Homey Flavors Meet Cherished Memories

เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นเพียงลานกว้างกับบ้านไม้เล็กหนึ่งหลังริมแม่น้ำปิง ก่อนที่ทีม ทับปิง จะเข้ามาปรับปรุง ก่อสร้างขยายบ้านหลังใหญ่ให้กลายเป็นร้านอาหาร และแปลงโฉมบ้านหลังเล็กให้เป็น ร้าน “จันฟอง” ร้านขนมไทยและขนมเมืองที่หยิบเมนูโบราณหาทานยากมานำเสนอในรูปแบบเฉพาะตัว  ซึ่งเมนูขนมของที่นี่เกิดจากการหยิบยกบางเมนู อันจะกินวิลล่า, ขนมโบราณและขนมเมืองเหนือ โดยมีพี่ก้อยช่วยถอดรสชาติจากความทรงจำขนมเมืองฝีมือแม่ของคุณวรรณ จนกลายเป็นขนมเมืองซิกเนเจอร์ที่อบอวลด้วยเรื่องราวความทรงจำ และตั้งชื่อร้านว่า “จันฟอง” เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณยายผู้เป็นเจ้าของสูตร ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความหวานละมุนผ่านชื่ออันอ่อนโยนของหญิงสาวชาวเหนือ

 

ร้านขนมจันฟอง

 

บรรยากาศภายในร้านจันฟอง

ในโซนของร้าน ทับปิง บ้านหลังใหญ่ถูกเนรมิตขึ้นใหม่พร้อมระเบียงไม้กว้าง เชื่อมต่อสู่ลานหญ้าเขียวขจีและท่าเรือริมแม่น้ำปิงที่ด้านนอก ตัวโครงการทั้งหมดถูกออกแบบภายใต้แนวคิดสไตล์ Homey ที่ถ่ายทอดบุคลิกของเจ้าของทั้งสามคนออกมาอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นแบบ อันจะกินวิลล่า ความชิลล์สบายใจแบบ ข้าวแกงบ้าน บ้าน และความดิบเท่ในสไตล์ Gusto site ทั้งหมดนี้ถูกหลอมรวมเป็น “บ้านหลังน้อย” ที่พร้อมโอบรับทุกความต้องการ ผ่านเมนูอาหารหลากหลายให้คุณได้เพลิดเพลินตั้งแต่เช้าจนค่ำ ไม่ว่าจะนั่งสบาย ๆ ในโซน In Door ชมบรรยากาศ Out Door หรือเลือกใช้ Private Space ที่สามารถปิดร้าน จันฟอง สำหรับครอบครัวหรือคณะขนาดกลางได้อย่างเป็นส่วนตัว

 

บรรยากาศภายในร้าน

 

จุดเช็กอินริมแม่น้ำปิงที่ทุกคนต้องแวะเวียนมา

 

บรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำปิง

Homey Home Cooked Creations with Northern Flair and a Green Kitchen Heart

ทุกเมนูของร้านถูกรังสรรค์โดยพี่ก้อย ผ่านสูตรอาหารที่มีเอกลักษณ์ในแบบ Thai-Twist แฝงด้วยกลิ่นอายเมืองเหนืออย่างแยบยลในแต่ละจาน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวคิด Green Kitchen เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และใส่ใจการจัดการขยะอย่างรับผิดชอบ เพื่อสร้างประสบการณ์การกินที่อร่อยและยั่งยืนไปพร้อมกัน

 

หลากหลายเมนูอาหารน่าลองที่ ทับปิง by อันจะกิน

 

สำหรับวันนี้เริ่มต้นกันที่เมนูซิกเนเจอร์น่าลองอย่าง สเต๊กลือ (425 บาท) เมนูเฉพาะที่ทับปิง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสะเต๊ะลือ หรือหมูสะเต๊ะสไตล์ภาคเหนือที่ถูกดัดแปลงมาจากสะเต๊ะแบบชวา เน้นการใช้เครื่องเทศพื้นเมือง เมนูนี้จึงถูก
ทวิสต์จากสะเต๊ะมาเป็น ‘สเต๊ก’ ด้วยการเลือกใช้พอร์คช็อปชิ้นใหญ่หมักกับเครื่องเทศภาคเหนือ ก่อนจะนำไปย่างจนสุกได้เนื้อฉ่ำ ๆ แบบสเต๊ก แต่หอมเครื่องเทศแบบหมูสะเต๊ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับอาจาดให้ได้ทานคู่กัน


 

สเต๊กลือ (425 บาท)

ถัดมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวหลอดกระจาย (145 บาท) เมนูดังจาก อันจะกินวิลล่า ตั้งแต่สมัยยังอยู่ย่านสีลม ความพิเศษอยู่ที่การเสิร์ฟแบบไม่ห่อเส้น แต่นำเครื่องก๋วยเตี๋ยวหลอดมาโรยกระจายทั่วจานแบบจัดเต็ม เคียงด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษ กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ครองใจคนกินมาตลอดกาล


 

ก๋วยเตี๋ยวหลอดกระจาย (145 บาท)

หนึ่งในเมนูยอดฮิตที่ถูกยกมาจาก อันจะกินวิลล่า และเรียกได้ว่าแทบจะเป็นต้นกำเนิดของร้าน ทับปิง ก็คือ ผัดไทยกุ้ง (195 บาท) เส้นจันท์เหนียวนุ่มคลุกเคล้ากับซอสผัดไทยสูตรเฉพาะของพี่ก้อย เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องครบชุดแบบไม่มีกั๊ก จนกลายเป็นเมนูที่ถูกพูดถึงปากต่อปาก และเป็นจานที่ทุกคนต่างตั้งใจมาลิ้มลองเมื่อไปเยือนอันจะกินวิลล่า แต่ด้วยขนาดจานที่ใหญ่ พี่ก้อยจึงอยากทำให้เมนูนี้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับทุกคน และเมื่อ ทับปิง ถือกำเนิดขึ้น เมนูซิกเนเจอร์จานนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย 


 

ผัดไทยกุ้ง (195 บาท)

อีกจานที่ยกมาคือ เพนเน่ซอสอันจะกิน (225 บาท) พาสต้าเส้นเพนเน่เหนียวนุ่มคลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษที่เกิดจากการหยิบวัตถุดิบในตู้เย็นมาลองปรุง จนกลายเป็นซอสที่มีหน้าตาคล้ายโบโลเนส แต่แฝงด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
ต่อกันด้วย เพนเน่แหนมเพสโต้ (250 บาท) จานที่เรียกได้ว่าครบรสเมนู เปรี้ยวหวานเค็มมัน เมนูเก่าจากสมัยร้านอยู่ที่สีลม ซึ่งถูกนำมาปรับสูตรใหม่ให้เข้ากับวัตถุดิบพื้นบ้านมากขึ้น เส้นเพนเน่ถูกคลุกเคล้ากับซอสเพสโต้โฮมเมด และเสริมรสด้วย แหนมหม้อ แหนมโบราณของชาวเชียงใหม่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคเก็บหมูหมักไว้ในหม้อ แม้จะมีวิธีทำคล้าย จิ๊นส้มเมือง แต่ทั้งรสชาติและเทคนิคกลับต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ จนกลายเป็นจานที่ผสมผสานรสชาติท้องถิ่นกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว


สำหรับใครที่หลงใหลในอาหารอิตาเลียน ไม่ควรพลาด พาสต้าหอยลาย (295 บาท) เมนูพาสตาคลาสสิกที่ใช้เส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับไวน์ขาวและหอยญี่ปุ่นสด เติมกลิ่นหอมและรสชาติด้วยกระเทียม พริก และพาร์สลีย์สด จานนี้คือเมนูคลาสสิก กินง่ายอร่อยตลอดกาล

 

ต่อกันด้วย Striploin Steak (Chimichurri) (950 บาท) สตริปลอยน์ชิ้นโต ย่างสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อม ซอสชิมิชูรีสูตรพิเศษของร้าน ที่มอบรสกลมกล่อมและกลิ่นหอมเฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

 

Striploin Steak (Chimichurri) (950 บาท)

จานถัดมาเป็น สลัดกุ้งเคจัน (295 บาท) เมนู Mixed Salad ที่รวมผักหลากหลายชนิดไว้ในหนึ่งจาน ทุกคำให้รสชาติแตกต่าง เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ สร้างความสนุกในการกินเสมือนนั่งทานที่ อันจะกินวิลล่า จานนี้มาพร้อมส้มสด ราดด้วยซอสฮันนี่มัสตาร์ด และท็อปด้วยกุ้งตัวโตเต็มคำ

 

สลัดกุ้งเคจัน (295 บาท)

หรือจะลองเป็น แกงเผ็ดขาเป็ดตุ๋นทอดกรอบ (385 บาท) เมนูที่พี่ก้อยลงมือทำเครื่องแกงแดงเองจนได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะนำมาเคี่ยวกับกะทิจนหอมมัน แล้วใส่เนื้อเป็ดเคี่ยวต่อให้ซึมซับรสเข้มข้น ปิดท้ายด้วยการท็อป เป็ดกงฟี เพิ่มเลเยอร์ความละเมียดละไม เดิมทีเมนูนี้เกิดจากการครีเอตเพื่อเสิร์ฟในกลุ่ม Private Group แต่กลับกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน จนถูกนำมาเป็นหนึ่งในเมนูประจำร้าน

 

แกงเผ็ดขาเป็ดตุ๋นทอดกรอบ (385 บาท)

อิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูแล้ว ทางร้านยังมีขนมหวานแนะนำให้เลือกสรร เริ่มต้นที่ซิกเนเจอร์จากทับปิง อย่าง บัวลอยฟักทองและบัวลอยมันม่วงที่ผสมเนื้อผักกับแป้งข้าวเหนียวปั้นด้วยมือทุกขั้นตอน ผ่านเทคนิคเฉพาะตัวทำให้บัวลอยไม่อืด และได้รสกลมกล่อม เหมาะกับการปิดท้ายมื้ออย่างสมบูรณ์ ต่อด้วย ทีรามิสุ ครีมมาสคาโปเน่เนียนนุ่ม ผสานเหล้าเล็กน้อยให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี และ คาราเมลคัสตาร์ด เนื้อเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น



 

บัวลอยฟักทองและบัวลอยมันม่วง, ทีรามิสุ และ คาราเมลคัสตาร์ด

สำหรับใครที่ชื่นชอบขนมไทย หรืออยากลองขนมเมืองเหนือ ก็สามารถสั่งเมนูจากฝั่ง จันฟอง ได้เช่นกัน อาทิ ขนมวง แป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นวงกลมแบน ๆ คล้ายแหวน โรยน้ำตาลอ้อย กินง่ายและหวานพอดี, ขนมลิ้นหมา ขนมเมืองโบราณของเชียงใหม่ ทำจากแป้งข้าวเหนียวดำ เคี่ยวจนเหนียวนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมะพร้าวขูด, ขนมหางจั๊กกิ้ม ขนมรูปทรงกรวย นึ่งจนสุก มีส่วนผสมหลักเป็นแป้งข้าวเจ้าและมะพร้าวขูด, ข้าวต้มกล้วยสไตล์เชียงใหม่ รสชาติหวานน้อย มีส่วนผสมของกล้วยและถั่วลิสง โรยน้ำตาลเกลือและมะพร้าว ท็อปด้วยงาดอยหอม ๆ และขนมถ้วยน้ำตาลมะพร้าว ขนมหวานนุ่มละมุนที่หอมกลิ่นมะพร้าว ทุกเมนูคือความละเมียดละไมแบบโฮมเมด ที่สะท้อนรสชาติและเอกลักษณ์ขนมเมืองเหนืออย่างแท้จริง

 

ขนมวง, ขนมลิ้นหมา, ขนมหางจั๊กกิ้ม, ข้าวต้มกล้วยสไตล์เชียงใหม่ และขนมถ้วยน้ำตาลมะพร้าว

Info
Hours
Everyday : 10:30AM - 11PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน

Address
4 9 เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
Map
Facilities
Suggest an Edit