Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey

Published on September 28, 2020

Re - Imagines Kaiseki Dining by Chef Jeff Ramsey

เปลี่ยนประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ไคเซกิแบบเดิม ๆ แล้วมาลองทานอาหารญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟจาก Jeff Ramsey เชฟหนุ่มสัญชาติอเมริกัน-ญี่ปุ่น ผู้อยู่เบื้องหลังร้านอาหารชื่อดังหลายร้านทั่วโลก และยังได้รับมิชลินสตาร์จากร้านในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยครั้งนี้เชฟ Jeff Ramsey ได้เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ไคเซกิรูปแบบใหม่ที่เพิ่มความแปลกใหม่และไอเดียลงไป สำหรับร้าน Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey ตั้งอยู่บนชั้น 3 โซน Epicurean ของ The Athenee Hotel Bangkok
 

ด้านหน้าร้าน

The Great Combination

ภายในร้านถูกออกแบบตกแต่งอย่างสวยงามโดยเน้นการผสมผสานสไตล์ Modern Japanese ที่มีความมินิมัล เข้ากับองค์ประกอบลวดลายและพื้นผิวแบบ Rustic สื่อถึงความงดงามของสมัยใหม่และเก่าได้เป็นอย่างดี เลือกใช้ระแนงและเฟอร์นิเจอร์ไม้ประดับตามมุมต่าง ๆ ตัดกับลุคเท่ขรึมจากเคาน์เตอร์บาร์และผนังสีดำ

ทางร้านมีหลากหลายโซนที่นั่ง ทั้งบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ที่ล้อมครัวเปิดเอาไว้ ให้ได้นั่งมองเหล่าเชฟครีเอตเมนูต่าง ๆ หรือจะเป็นมุมที่นั่งแบบโต๊ะที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ส่วนใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่หรืออยากได้ความไพรเวท ทางร้านยังมีห้องส่วนตัวไว้รองรับอีกด้วย

 

บริเวณเคาน์เตอร์บาร์

 

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยการผสมผสานสไตล์ Modern Japanese และ Rustic

 

ห้องไพรเวทรองรับใครที่มาเป็นกลุ่ม

The Art of Repairing
คำว่า 'Kintsugi' (คินสึงิ )ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง การเชื่อมเซรามิกที่แตกหักด้วยทอง ทำให้เกิดเป็นผลงานศิลปะในแบบใหม่ที่ยังคงความงามของชิ้นงานเซรามิกนั้น ๆ เอาไว้ และยังเพิ่มความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของสีทองอร่ามลงไปอีกด้วย ซึ่ง Kintsugi ยังเป็นคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ต้องการนำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มาเพิ่มไอเดียและสีสันใหม่ ๆ ลงไป แต่ยังคงเสน่ห์ของอาหารญี่ปุ่นเอาไว้เช่นเดิม

Taste The Creative Dishes

จุดเด่นของอาหารที่นี่อยู่ที่การนำเสนอไอเดียความแปลกใหม่ที่ถูกผสมผสานลงไปในอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมจนกลายเป็นอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ของทางร้าน สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ จะมีทั้งเมนู A la carte และแบบคอร์ส ซึ่งจะแบ่งเป็นคอร์ส ITO (9 คอร์ส ราคา 2,500++ บาท) และคอร์ส KIN (12 คอร์ส ราคา 4,400++ บาท)

ทางร้านแนะนำเมนูเด่น ๆ อย่าง Alaskan King Crab and Black Truffle Chawanmushi ไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเนียนสไตล์ญี่ปุ่นที่นำไปตุ๋นในอุณหภูมิ 85 องศาเป็นเวลา 14 นาที จนได้เนื้อไข่ตุ๋นที่นุ่มนวลคล้ายคัสตาร์ด ตุ๋นกับเนื้อปูอลาสก้า ราดด้วยซอสที่คล้ายกับซอสเกรวี่ ก่อนจะเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลและทรัฟเฟิล

ต่อด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับ Nagano Walnut Soba เมนูโซบะเสิร์ฟแบบเย็นที่ทางเชฟใช้เส้นโซบะเนื้อนุ่มหนึบจากเมืองนากาโน่ ท็อปด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ ถึง 7 ชนิด เช่น งาขาว, เมียวงะ และต้นหอม เป็นต้น ทานคู่กับซอสสึยุที่ทำจากสาเกและโชยุ ผสมกับวอลนัท ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความเย็นด้วยกรานิต้าน้ำมันวอลนัท 

 

Alaskan King Crab and Black Truffle Chawanmushi

 

Nagano Walnut Soba

 

Nagano Walnut Soba

มาถึงเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Kin Kat เมนูที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากขนมสุดฮิต Kit Kat ตัวเวเฟอร์ทำจากแป้งขนม Wanaka สอดไส้ครีมฟัวกราส์ผสมกับคอนยัคและมิริน เคลือบด้วยช็อกโกแลต ก่อนจะเสิร์ฟมาในแพคเกจจิ้งสีแดง ความกรอบของเวเฟอร์เข้ากันได้ดีกับความครีมมี่ของฟัวกราส์

ตามด้วยเมนู Japanese Wagyu A4 เนื้อวากิวจากญี่ปุ่นระดับ A4 ย่างมาอย่างพอดี ท็อปด้วย Kombu Butter หรือเนยผสมสาหร่ายคอมบุ เสิร์ฟคู่กับเมล็ดพริกไทยดองและผักเคียงย่าง

Double Stock Soup with Tsukune and Yuzu ซุปสองชนิดที่ผสมด้วยกันอย่างลงตัว ซุปตัวแรกได้จากน้ำสต็อกไก่ ซุปส่วนที่สองได้จากน้ำสต็อกดาชิ ก่อนจะเพิ่มรสชาติด้วยโฟมส้มยูซุ และยังมีลูกชิ้นเนื้อไก่ด้วย แนะนำให้ยกดื่ม จะได้รสชาติกลมกล่อมของซุปน้ำสต็อกไก่และดาชิ ก่อนจะเจอรสเปรี้ยวของโฟมส้มยูซุเย็น ๆ เป็นเมนูที่รสชาติลงตัวและอยากดื่มไปเรื่อย ๆ

 

Kin Kat

 

Japanese Wagyu a4

 

Double Stock Soup with Tsukune and Yuzu

ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานเย็น ๆ อย่าง Melon ไอศกรีมเชอร์เบทเมลอนรสหอมหวาน ท็อปด้วยโฟมเมลอนผสมกับเลมอน ทานคู่กับเนื้อเมลอนญี่ปุ่นสด ๆ 

 

Melon

Info
Hours
Everyday : 12PM - 2:30PM
6PM - 10:30PM
Price

฿฿฿฿฿฿ มากกว่า 2,000 บาทต่อคน

Address
ชั้น 3, The Athenee Hotel Bangkok ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ชิดลม

Facilities
Suggest an Edit